อย่างที่เคยบอกไปการทาครีมกันแดดถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเพราะว่ายังมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการทาครีมกันแดดที่อาจจะทำให้ผลหรือการออกฤทธิ์ของสารในครีมกันแดดนั้นมีประสิทธิภาพน้อยลงหากทำไม่ถูกวิธี

ปริมาณของครีมกันแดดที่ดีควรจะทาประมาณ 2 มิลลิกรัมต่อพื้นที่ของผิวหนัง 1ตารางเซนติเมตรพูดง่ายๆว่าเราควรทาครีมกันแดดให้ปริมาณที่เพียงพอไม่ถามมากหรือน้อยจนเกินไปเพราะถ้าหากทานน้อยเกินไปประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดอาจจะลดลงเหลือเพียง 20 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ในทางกลับกันหากทาซ้ำในปริมาณที่เพิ่มขึ้นประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

คนส่วนใหญ่เวลาทาครีมกันแดด มักที่จะลืมทาที่ใบหูจริงๆใบหูก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของบนใบหน้าเพราะเป็นส่วนที่เกิดอาการไม่ได้ง่ายกว่าผิวบริเวณอื่นเพราะเป็นบริเวณที่บอบบางอีกทั้งหากไม่ดูแลรักษาใบหูก็อาจจะทำให้ใบหูเป็นมะเร็งผิวหนังได้ รวมทั้งบริเวณลำคอทั้งด้านหน้าและด้านหลังก็ควรทาครีมกันแดดด้วยไม่ใช่ทาเฉพาะบนใบหน้าหรือส่วนไหนที่เสื้อผ้าปกปิดไม่มิดก็ควรทาให้ครอบคลุมด้วยนะ

ในส่วนของบริเวณที่บอบบางเช่นริมฝีปากและขอบตาก็ควรหาครีมกันแดดเฉพาะที่นำมาใช้ในส่วนนั้นได้เช่นลิปสติกแบบกันแดดหรือครีมทารอบดวงตาแบบกันแดดก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้

ค่า SPF ที่เหมาะสมควรมีค่าอยู่ในช่วง 30 ถึง 50 สำหรับ สำหรับครีมทาผิว ค่า SPF ไม่ควรน้อยกว่า 50

หลายๆคนมีความเชื่อผิดๆว่าทาครีมกันแดดแล้วจะอยู่ได้ทั้งวันแต่ความจริงแล้วครีมกันแดดมีประสิทธิภาพเพียง 2-3 ชั่วโมงดังนั้นหากเป็นไปได้หรือเราจะต้องทำงานอยู่กลางแดดเป็นเวลานานควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมงจะทำให้ผิวหนัง ของเราถูกปกป้องจากรังสี UV ได้อย่างเต็มที่

หลายๆคนใช้ออยทาผิวในการกันแดดซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด Oil หรือน้ำมันต่างๆไม่มีส่วนในการป้องกันแสงแดดหรือแสง UV ซึ่ง Oil หรือน้ำมันมีหน้าที่เพียงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวทำให้รู้สึกว่าผิวไม่แห้งกร้านบางคนเลยเข้าใจว่ามันสามารถช่วยป้องกันรังสี UV ได้นั่นเอง

สำหรับคนที่ต้องทาครีมกันแดดแล้วต้องลงน้ำตรงนี้ต้องบอกเลยว่าประสิทธิภาพของครีมกันแดดจะลดลงโดยสามารถป้องกันแสงแดดได้เพียง 1 ชั่วโมงดังนั้นหากคนที่เล่นกีฬาว่ายน้ำหรือต้องทำงานในน้ำควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงจะดีกว่า